ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำรูปแบบป้ายต่างๆ พร้อมคำแนะนำอย่างละเอียด สามารถนำมาเป็นแนวทางในการทำป้ายสำหรับใช้ติดหน้าบ้านได้เลย ซึ่งป้ายมีหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจและแบบไหนที่ตรงกับใจเรา โดยเน้นถึงการนำไปใช้งานได้จริงรวมไปถึงแนวทางการสั่งผลิตเพื่อให้คุณได้รูปแบบป้ายสำหรับติดหน้าบ้านได้ถูกใจที่สุด การเลือกรูปป้ายที่เหมาะสมกับบ้านหรือธุรกิจของเราเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เราควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุและการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำกันแบบละเอียด มั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถเลือกรูปแบบป้ายได้อย่างถูกใจได้อย่างแน่นอน
ประเภทของป้ายติดหน้าบ้าน
การทำป้ายชื่อติดหน้าบ้าน มีรูปแบบของป้ายที่หลากหลาย ซึ่งรูปแบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ เราได้มีการสำรวจและพิจารณาถึงรูปแบบป้ายต่างๆ เพื่อใช้สำหรับติดหน้าบ้านหรือหน้าบริษัท ส่วนใหญ่จะผลิตจากแผ่นอะคริลิคล้วนๆ โดยรูปแบบป้ายต่างๆ มีแบบไหนบ้างเรามาเลือกชมกันค่ะ
ก่อนอื่นเราจะต้องรู้จักส่วนประกอบของเลือกสั่งป้ายอะคริลิคติดหน้าบ้านกันก่อน โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ดังนี้
- เลือกรูปแบบพื้นหลัง
- รูปแบบงานตัวอักษร
- การจัดวางตำแหน่งข้อความ
- เลือกสีที่ต้องการ
ในบทความนี้เราจะมาเน้นกันในเรื่องการเลือกรูปแบบพื้นหลังกันก่อน ซึ่งเป็นพื้นฐานและหัวใจสำคัญในการทำป้าย ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ โดยเราจะมาแนะนำพื้นหลังแต่ละแบบว่ามีแบบไหนบ้าง
การเลือกรูปแบบพื้นหลัง
1. พื้นหลังรูปแบบมาตรฐาน
พื้นหลังรูปแบบนี้จะเป็นที่ได้รับความนิยมที่สุด เป็นพื้นหลังที่เป็นสีหลักๆ มีให้เลือกมากมายหลายเฉดสี และที่สำคัญสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายที่สุด ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่มีความทนทาน น้ำหนักเบา ซึ่งพื้นหลังของแผ่นอะคริลิคมีสีที่เป็นมาตรฐานถูกผสมสีและผลิตจากโรงงานทำให้มีความทนทานต่อการซีดจางได้เป็นอย่างดี อายุการใช้งานนานกว่า 5 ปี ปัจจุบันมีสีให้เลือกทุกสี เช่น สีขาว สีน้ำเงินเข้ม สีเขียว สีแดง และ สีอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละสีจะมีให้เลือกเพียงแค่เฉดสีเดียวเท่านั้น ซึ่งหากต้องการที่เป็นโทนสีหรือใช้สีรโทนเฉพาะอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับพื้นหลังที่เป็นสีมาตรฐาน
ตัวอย่างงานป้ายที่ใช้พื้นหลังสีมาตรฐาน
-
ป้ายพื้นหลังสีขาว
พื้นหลังอะคริลิคสีขาว ใช้สีรหัส 444 ซึ่งเป็นสีขาวทีบ โดยปกติจะเป็นรหัสที่นิยมนำมาใช้งานป้ายบริษัทหรือป้ายหน้าห้อง โทนสีจะออกเป็นสีขาวทึบแสงถ้าจะให้มองเห็นภาพก็ให้ลองนึกถึงสีขาวนม ซึ่งเป็นสีมาตรฐานและสามารถใช้งานได้ทุกพื้นที่ หรือผนังทุกรูปแบบสามารถทำให้สีของโลโก้โดดเด่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสีที่เป็นสีหลักของการทำป้ายเลยก็ว่าได้
2. แบบพื้นหลัง 2 ชั้น (2 Layer)
งานพื้นหลังแบบ 2 ชั้น เป็นแบบที่มีส่วนประกอบของแผ่นอะคริลิคจำนวน 2 แผ่นซ้อนประกบกัน โดยทั้ง 2 แผ่นจะต้องวางซ้อนกันได้พอดี โดยบนป้ายอะคริลิคชั้นบนจะใช้อะคริลิคสีใสเป็นป้ายส่วนที่ติดตัวอักษรหรือข้อความต่างๆ ส่วนชั้นล่างหรือแผ่นหลังสามารถเลือกสีได้ตามต้องการได้เลย จุดเด่นของงานพื้นหลังแบบนี้จำเป็นจะต้องใช้วิธีการตัดด้วยเครื่องตัดแบบเลเซอร์จะทำให้ขอบเรียบเนียนสวยงามมาก ป้ายรูปแบบนี้เหมาะกับการติดตั้งบริเวณภายในและภายนอกอาคาร เป็นแบบที่สีความสวยงามและมีมิติในการมองจากระยะไกล แต่ก็มีข้อจำกัดในการติดตั้งซึ่งจำเป็นจะต้องติดตั้งด้วยน๊อตหมุดลอยเท่านั้น เหตุผลเพราะป้ายแบบพื้นหัง 2 ชั้นจะมีแผ่นป้ายอะคริลิคจำนวน 2 แผ่นวางทับซ้อนกันให้พอดีและมีน๊อตแบบหมุดลอยเป็นตัวยึดให้แผ่นอะคริลิค 2 แผ่นติดกัน นั้นเอง
ตัวอย่าง ป้ายแบบพื้นหลัง 2 ชั้น
3. พื้นหลังแบบตัดตามขอบ
ป้ายพื้นหลังแบบตัดตามแบบตัวอักษร จะเป็นการทำป้ายข้อความที่มีแผ่นหลังตัดตามขอบ ซึ่งเราจะเรียกว่าป้ายแบบไดคัทตามขอบ ลักษณะของข้อความบนป้ายจะเสมือนมีเส้นขอบ (Stroke) รอบๆตัวอักษร ทำให้สวยงามดูมีเส้นเงา เราสามารถเลือกสีเส้นขอบได้ตามแบบที่ชอบได้เอง นอกจากข้อความแล้วเรายังสามารถตัดขอบตามแบบทรงหรือแบบโลโก้ได้เช่นกัน
ป้ายประเภทนี้ เรามักจะพบเห็นตามร้านค้าหรือร้านอาหาร รวมไปถึงงานแต่งงานที่ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ตกแต่งภายในงานกันอย่างมาก ป้ายงานแบบนี้จะต้องมีการออกแบบจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และตัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยงานตัดตามขอบ จะสามารถตัดตามรูปแบบที่ต้องการได้
4. ตัวอักษรอะคริลิค แบบไม่มีพื้นหลัง
ในกรณีที่ต้องการแต่ตัวอักษรอย่างเดียว แบบไม่มีพื้นหลัง เราจะเรียกว่า ตัวอักษรอะคริลิค รูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานติดผนังโดยตรงใช้เพียงตัวอักษรอะคริลิคตัดเป็นชิ้นๆ และนำไปติดตั้งบริเวณผนังหรือพื้นผิวเรียบ โดยจะไม่มีพื้นหลัง ลักษณะการใช้งานมักจะนำมาใช้เป็นการตกแต่งหรือติดข้อความชื่อร้านค้าบริเวณด้านหน้าร้าน หรือ ติดบนผนังที่เป็นกระจก ซึ่งการติดแบบนี้จะสามารถติดได้ง่ายดายและมีความทนทาน ที่สำคัญ ยังสามารถใช้สีอะคริลิคที่เป็นสีพิเศษ ยอดนิยม เช่น สีทองกระจก (Gold Mirror) , สีโรสโกล (RoseGold) หรือ สีพิ้งโกล (Pink Gold) ได้อีกด้วย
ข้อดีของแผ่นอะคริลิคมาทำงานป้าย
- มีน้ำหนักเบา และทนแดด ทนฝน อายุการใช้งานยาวนาน
- สามารถขึ้นแบบได้ง่ายกว่าวัสดุอื่นๆ สามารถออกแบบได้หลากหลาย มีความยืดหยุ่นและสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย
- อะคริลิคมีสีให้เลือกมากกว่าวัสดุอื่นๆ เฉดสีสวย มีความเงา สามารถดึงดูดความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
- สีแผ่นอะคริลิคมีให้เลือกมากมายก็จริงอยู่ แต่จะไม่มีโทนสีให้เลือกมากนัก อาจจะมีเพียงสีละหนึ่งถึงสองโทนเท่านั้น อาจจะทำไม่เหมาะกับงานที่ต้องการให้กำหนดโทนสีให้ตรงตามสเปค
- แผ่นอะคริลิคแบบสีมาตรฐานที่นำมาใช้จะมีความหนาไม่เกิน 5 มม. เท่านั้น หากต้องการที่ความหนามากกว่า อาจจะต้องใช้วิธีเสริมแผ่นหลังเพื่อให้หนาขึ้น แต่ก็อาจจะมีผลต่อราคาเพราะจะต้องใช้แผ่นอะคริลิคจำนวนมากขึ้น
- มาตรฐานการผสมสีของแต่ละโรงงานอาจจะมีผลต่อโทนสีอะคริลิคที่ผลิตมา โดยสรุปคือแต่ละโรงงานสีจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว ดังนั้นควรจะขอดูตัวอย่างสีของแต่ละร้านเพื่อตรวจสอบสีให้เป็นที่น่าพอใจก่อนสั่งผลิตงานทุกครั้ง
- วัสดุอะคริลิคมีหลากหลายเกรดให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละโรงงานสามารถผลิตด้วยส่วนผสมของเม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพต่างกัน โดยการใช้วัสดุอะคริลิคมาทำงานป้ายจะต้องใช้เกรดของแผ่นอะคริลิคที่สามารถทนความร้อนได้ดี ไม่บิดโค้งง่ายเมื่อถูกความร้อน ซึ่งอะคริลิคแต่ละยี่ห้อจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน